+ แนะนำ มือถือราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี 2021 +

ยุคนี้ต้องบอกว่ามือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท มีหลายรุ่นที่สเปคน่าสนใจเอามาก ๆ ด้วยพลังของหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้น การพัฒนาในส่วนของกล้อง ที่หลาย ๆ รุ่นก็จัดกล้องหลังมาให้ถึง 3 ตัวหรือ 4 ตัวเลยก็มี นอกจากนี้ตัวเครื่องเอง ก็ออกแบบได้ดูดี มีราคา ดูแพงเอามาก ๆ อีกด้วย จอรุ่นใหม่สีสวยมากขึ้นแถมยังให้ภาพที่เนียนตา ดูสมูทมากขึ้นอีก ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นทำให้เราได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สเปคสูงขึ้น แต่ราคาถูกลง แล้วจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น ตามมาหากันในบทความนี้เลยครับ เราคัดเลือกมาให้คุณเลือก พร้อมวิธีเลือกกันแล้วครับ

อันดับแรกที่เราควรจะดูก็คือ CPU และ GPU มือถือราคาไม่เกิน 5000 บางรุ่นก็ให้มาเกินราคา ใครที่เป็นสายเล่นเกม หรือชอบความเร็วสูง ต้องเลือกสเปคดี ๆ แนะนำให้ดูคะแนนทดสอบความเร็วจากแอป Antutu ที่อยู่ช่องสุดท้ายในตารางสินค้า จะดูง่ายกว่าไม่ต้องไปปวดหัวกับชื่อหรือรุ่นหน่วยประมวล พอเราได้เห็นคะแนนแล้วจะได้เทียบถูกว่าตัวไหนเร็วกว่าหรือใกล้เคียงกัน บางทีการเก็บเงินเพิ่มอีกสักนิดก็จะได้เครื่องที่เร็วกว่าพอสมควร ลองเปรียบเทียบความเร็วกับราคาดี ๆ นะครับ

อันดับที่ 2 เลือกรุ่นที่มี RAM 3 GB ขึ้นไป เพราะแอปในปัจจุบันกิน RAM มากขึ้น ซึ่ง RAM ก็คือที่เก็บข้อมูลชั่วคราว ถ้า RAM น้อย เครื่องก็จะต้องไปดึงข้อมูลจาก Storage ที่ทำงานได้ช้ากว่า แทนที่จะดึงจาก RAM เลย เปรียบโต๊ะเป็น RAM ตู้หนังสือเป็น Storage คนนั่งทำงานบนโต๊ะเล็ก ๆ ต้องคอยไปหยิบหนังสือจากตู้หนังสือที่เป็น Storage ทีละเล่ม แต่ถ้าเรามีโต๊ะที่ใหญ่มาก ๆ เราก็จะหยิบหนังสือมาได้ครั้งละหลาย ๆ เล่ม ไปวางบนโต๊ะ ทำให้ไม่ต้องเดินไปหยิบที่ตู้หนังสือซึ่งช้ากว่า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามี RAM มาก จะทำให้เครื่องจะเร็วขึ้น ถ้าอยากให้เครื่องเร็วขึ้นต้องเลือก CPU และ GPU แรง ๆ แต่ถ้าขาด RAM ก็จะมีผลทำให้เครื่องทำงานช้า เป็นอีกจุดที่ควรดูก่อนซื้อมือถือราคาไม่เกิน 5000

อันดับที่ 3 เลือกหน่วยความจำแบบ Storage สำหรับลงแอปให้เพียงพอ โชคดีที่เดี๋ยวนี้เค้าให้มา 64 GB กันแล้วปัญหาเรื่องพื้นที่ไม่พอเลยลดลง ใครที่คิดจะเก็บใส่ SD Card ต้องบอกก่อนว่าส่วนใหญ่ก็จะเก็บได้แต่รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ แต่พวกแอปทั้งหลายย้ายลงไม่ได้นะ แล้วก็แนะนำให้ดูรุ่นที่ใช้ หน่วยความจำ Storage แบบ UFS 2.1 ขึ้นไป เพราะช่วยให้เครื่องอ่านเขียนไฟล์ข้อมูลได้เร็วมากยิ่งขึ้น ระยะเวลาในการโหลดน้อยลง 2-3 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นเรื่องความละเอียดของกล้องจะได้ถ่ายรูปสวย ๆ มีกล้อง Ultrawide ไว้ถ่ายภาพมุมกว้าง กล้อง Macro ไว้ถ่ายระยะใกล้อย่างเหรียญหรือเกสรดอกไม้ บางรุ่นยังรองรับเครือข่ายแบบใหม่อย่าง 5G ได้ด้วย แบตเตอรี่ใหญ่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น รองรับ Micro SD และ ใส่ 2 ซิมได้พร้อมกัน แบบ 3 Slot ถ้าเป็น Hybrid Slot จะต้องเลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ Micro SD (ใส่พร้อมกันไม่ได้เหมือน 3 Slot) รองรับ Wi-Fi 5 หรือที่เรียกว่า Wi-Fi AC ก็จะดีกว่า เพราะมีคลื่น 2.4GHz และ 5 GHz (เร็วขึ้น แต่ไม่ไกล เมื่อเทียบกับ 2.4 GHz) ให้เชื่อมต่อตามความต้องการ ซึ่ง Wi-Fi Router รุ่นใหม่ ๆ ตามบ้านใช้มาตรฐาน Wi-Fi 5 กันหมดแล้ว

Infinix Hot 10S เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาทที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยสโลแกน “ตัวจริงเรื่องเกม” ที่มาในราคาสุดคุ้มจนต้องอ้าปากค้าง ตั้งแต่ หน่วยประมวลผล Helio G85 สิ่งสำคัญที่ช่วยการเล่นเกมไหลลื่นได้ดี การันตีความเร็วด้วยคะแนนทดสอบความจาก Antutu ระดับ 240,000 คะแนน ส่วนจอเป็นแบบ IPS ขนาด 6.82 นิ้วใหญ่เต็มตา จับเต็มมือ แถมจอเองยังมีค่า Refresh Rate ที่ 90 Hz ภาพดูเนียนลื่นสุด ๆ และที่เกมเมอร์หลายคนให้ความสนใจคือ Touch Sampling Rate ระดับ 180 Hz ช่วยตอบสนองการควบคุมได้รวดเร็วลดการดีเลย์ ส่วนตัวแบตเตอรี่ก็ใหญ่ถึง 6000 mAh เล่นเกมกันได้ยาว ๆ ออกแบบเอาใจคอเกมเกินหน้าเกินตายี่ห้ออื่นขนาดนี้

ในด้านการถ่ายภาพก็ไม่น้อยหน้า ให้กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ส่วนกล้องอื่นทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ วัดระยะ และ AI เพื่อช่วยให้การทำงานของกล้องหลักนั้นฉลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมโหมด Super Night เพื่อการถ่ายภาพกลางคืนที่เหนือชั้น ดูโปรกว่าที่เคย พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยให้การเซลฟี่ดูคมชัดยิ่งขึ้น ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Android 11 ที่มีการครอบทับด้วย XOS 7.6 ปรับแต่งหน้าและลูกเล่นสไตล์ Infinix แล้วยังรองรับการแสกนด้วยใบหน้า ไปพร้อมกับการแสกนด้วยลายนิ้วทางด้านหลังของตัวเครื่อง

ในด้านซอฟท์แวร์สำหรับการเล่นเกมนั้น ตัวเครื่องมีระบบ Game Zone และ Dir-Link Engine ที่จะทำหน้าที่ปิดการแจ้งเตือน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลขณะที่เรากำลังเล่นเกม แถมยังสามารถบันทึกวิดีโอในขณะที่เรากำลังเล่นเกมได้อีกด้วย ด้วยสเปคทั้งหมดของมือถือรุ่นนี้ และราคาก็ประหยัดเอามาก ๆ ทำให้กลายเป็นมือถือราคาประหยัดที่เราแนะนำสำหรับการเล่นเกมเอามาก ๆ เลย เวลาซื้อใน Online ดูชื่อรุ่นดี ๆ นะครับ เพราะมีรุ่น HOT10 ที่สเปคเก่ากว่าด้วย

มือถือ Redmi Note 10 5G ถึงแม้ราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ แต่ทว่าสเปคก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยเหมือนกัน แถมยังรองรับคลื่น 5G ที่เราจะเริ่มสามารถใช้งานกันได้แล้วโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า หรือจุดที่มีคนพลุกพล่านมาก ๆ กลางใจเมือง ฝาหลังแบบพลาสติก ตัวกล้องดีไซน์นูนพอสมควร ต้องใช้เคสดี ๆ หนา ๆ หน่อย จะช่วยลดปัญหาหล่น แล้วกระจกกล้องแตกได้ เห็นคนในกลุ่ม Mi กล้องแตกเยอะเหมือนกัน หน้าจอเป็นแบบ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ใช้งานสบายตาทุกวัย มีความละเอียดแบบ Full HD+ และ Contrast Ratio จะอยู่ที่ 1500 : 1 ให้ภาพที่สีสันสดใสและมีคมชัดเอามาก ๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยี AdaptiveSync Display ที่มักจะเห็นในรุ่นแพง ๆ ช่วยให้ภาพดูสมูทแบบสุด ๆ ด้วยการปรับอัตราการรีเฟรชเรทให้สูงสุดถึง 90Hz หรือจะปรับให้ต่ำกว่าเพื่อประหยัดพลังงานก็ทำได้ แต่ถ้าใครได้ใช้ 90Hz แล้ว เราเชื่อเลยว่าไม่ปรับลดแน่นอน ภาพไหลลื่นดูนวลตามากจริง ๆ ขอคอนเฟิร์ม

รุ่นนี้มีถาดใส่ซิมเป็นแบบ Hybrid Slot คือมี 2 ช่อง ช่องแรกไว้ใส่ซิม ช่องสองไว้ใส่ซิม 2 หรือจะเลือกใส่ MicroSD Card ใครที่อยากใส่ซิม 2 อันและ MicoSD การ์ดพร้อมกันด้วยจะทำไม่ได้นะ ต้องไปซื้อรุ่นที่เป็น 3 ช่อง Dedicated Slot แทน หน่วยประมวลผล Dimensity 700 เป็นแบบ 8 แกน ความเร็ว 2.2 GHz มาพร้อม RAM ขนาด 4 GB และ หน่วยความจำ Storage ขนาด 128 GB แบบ UFS2.2 ที่มีความเร็วในการอ่าน-เขียนมากกว่ารุ่นอื่น ๆ 2-3 เท่า ช่วยให้เวลาเปิดแอปพลิเคชั่นรวดเร็วขึ้นมากจริง ๆ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12 มีฟีเจอร์การใช้งานครบครัน ทั้งโคลนแอป ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกเพียบ แบตเตอรี่ก็ใส่มาถึง 5000 mAh เพียงพอต่อการใช้ ถ้าใครใช้ไม่พอ ตัวเครื่องยังมาพร้อมหัวชาร์จ 18 W เอามาชาร์จแป๊บเดียวขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์เลย

ส่วนเรื่องการถ่ายภาพก็จัดมาให้ไม่น้อยหน้าใคร ๆ ด้วยกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ถึง 1/2 นิ้ว ยี่ห้ออื่นอาจจะใส่ 48 ล้านมาให้เหมือนกันแต่เซ็นเซอร์ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ เลยเป็นจุดที่ทำให้ 48 ล้านตัวนี้ดีกว่าอีกหลาย ๆ ยี่ห้อ เสริมกล้อง Macro 2 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายระยะใกล้ และกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซลไว้ทำหน้าที่วัดระยะสำหรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกด้านเลย รองรับ 5G หน่วยประมวลผลก็เร็ว ดูคะแนน Antutu ก็ถือว่าดีเลย แต่ถ้าเน้นเล่นเกมลองดู Redmi Note 9T 5G ที่ใช้ชิปหน่วยประมวล Dimensity 800 จะเร็วกว่าอีกหน่อยในราคาเท่ากัน หรือจะเพิ่มงบอีกนิดไปเล่น POCO X3 Pro ที่ใช้ชิป Snapdragon 860 ก็จะแรงกว่าแบบเอาเรื่องเลย ส่วนเรื่องกล้องก็ถือว่าทำได้ดีมากโดยเฉพาะกล้องหลัง ในช่วงราคานี้คงไม่มีใครเทียบอีกแล้ว

ด้วยราคาเพิ่มเติมจากตัวด้านบน แต่ถ้าใครอยากได้มือถือ 5G ที่กล้องหน้าดีงามเอามาก ๆ พร้อมทั้งศูนย์บริการคุณภาพ ระดับเดียวกับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Apple หรือ Samsung ก็ขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับกับ Oppo A74 5G ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 ของทาง Oppo เอง ใช้หน่วยประมวลผลจาก Snapdragon 480 ที่แรงเอาเรื่องอยู่ เล่นเกมได้สบาย ๆ มีแรมขนาด 6 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB แบบ UFS 2.1 ที่เร็วกว่าหน่วยความจำแบบทั่วไป 2-3 เท่า ตัวหน้าจอแบบ LCD ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว สามารถแสดงผลด้วยอัตรารีเฟรชสูงถึง 90 Hz ให้ภาพดูสมูทเอามาก ๆ มีกล้องหน้า 16 ล้าน เซลฟี่ได้คมชัดสวยงาม มาพร้อม Ai Beautification 2.0 ที่จะทำให้ภาพสวยขึ้นไปอีกขั้น ช่วยปรับให้หน้าดูเนียนใส แต่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่

ทางด้านกล้องหลัง มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างถึง 119 องศา รวมถึงยังมีกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายระยะใกล้ และกล้องตัวที่ 4 สำหรับวัดระยะตื้น-ลึก ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ สามารถปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยลายนิ้วมือ โดยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่องด้านข้าง ทางด้านแบตเตอรี่ก็ใหญ่ถึง 5000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังมีหัวชาร์จเร็ว 18 W อีกด้วย โดยรวม ๆ ถึงราคาจะสูงกว่าอีกหลายยี่ห้อในบทความนี้ แต่ด้วยความน่าเชื่อถือ ศูนย์บริการ รวมถึงสินค้าไม่ค่อยมีปัญหา ก็ทำให้ใครหลายคนยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดเพื่อความสบายใจระดับเดียวกับแบรนด์ดังครับ

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่สุดแห่งความคุ้มค่าพร้อมความมาตรฐานที่มั่นใจได้จาก Samsung Galaxy A02s เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่น Galaxy A01 ไม่ว่าจะดีไซน์ที่สวยงาม ขอบเครื่องโค้งมนพอดีมือ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว มีความละเอียดระดับ HD+ ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 10 มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาและลูกเล่นในแบบฉบับของ Samsung ด้วย One UI ที่ง่ายต่อการใช้งาน และหลายคนก็พูดว่าซอฟต์แวร์เร็วขึ้นกว่ารุ่นเก่า ๆ ที่ยังไม่เป็น One UI มีด้วยโหมดกลางคืน (Night Mode) ช่วยให้สบายตามากยิ่งขึ้น ลดแสงสีฟ้าที่อันตราย มาพร้อมชิปเซ็ตหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 450 แบบ Octa-Core หรือ 8 แกนประมวลผล ที่ความเร็ว 1.8 GHz

มี RAM ขนาด 4 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB แถมยังเพิ่มใส่การ์ด Micro SD สูงสุดถึง 1 TB เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน แต่ถ้าใครมีแอปพลิเคชั่นเยอะมากอาจจะลองรุ่นที่มีความจุมากกว่านี้แทน ส่วนแบตเตอรี่ก็มีความจุถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ยาว ๆ และรองรับชาร์จเร็ว 15W อีกด้วย ตัวกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังก็ใส่มาถึง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, เลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไว้ถ่ายระยะใกล้ และกล้องที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพื่อช่วยในการถ่ายภาพหน้าชัด หลังเบลอ ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจทั้งความเร็ว ราคา และการบริการหลังการขายเลยทีเดียว

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ได้มาตรฐานทั้งบริการและคุณภาพอย่าง Vivo Y20 ที่รังสรรค์ออกมาอย่างสวยงามน่าใช้ ด้วยกระจกตัวเครื่องโค้งแบบ 2.5D ทำดูหรูหรา สวยงาม มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีขาว Dawn White ที่ได้ไอเดียจากแสงในตอนเช้า และ สีน้ำเงิน Nebula Blue ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูเนบิวลาในห้วงจักรวาล มาพร้อมหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ใหญ่สบายตา ใครที่สายตาเริ่มมีปัญหาถือว่าตอบโจทย์ได้ดี มีความละเอียดระดับ HD+ ด้วยเทคโนโลยี In-cell ทำให้จอแสดงผลคมชัด เห็นรายละเอียดชัดเจน และมีสีสันสวยงาม แล้วยังช่วยลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมดวงตาเรา ตัวเครื่องจะมีสแกนลายนิ้วมืออยู่ตรงด้านข้าง สามารถปลดล็อกได้ภายใน 0.22 วินาที รวดเร็วเอามาก ๆ แถมยังมีเทคโนโลยี Face Wake สามารถสแกนใบหน้าเพื่อทำการปลดล็อคโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

ส่วนหน่วยประมวลผลก็ใช้ Snapdragon 460 ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเป็น Android 10 ครอบหน้าตาด้วย Funtouch OS 10.5 ของทาง Vivo มาพร้อม RAM ขนาด 4 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB เพียงพอต่อแอปพลิเคชั่นในปัจจุบัน แล้วยังเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256 GB ในขณะที่แบตเตอรี่ก็ให้มาถึง 5,000 mAh เพียงพอต่อการใช้งานยาว ๆ เอาใจคนชอบเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Multi-Turbo ที่มีส่วนช่วยลดอาการ lag หรือกระตุก ในขณะเล่นเกม มาพร้อม Ultra Game Mode ช่วยให้การสั่นตอบสนองสมจริงยิ่งขึ้น

ตัวกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพิ่มพลังความสวยให้เว่อร์วังด้วย AI Face Beauty ปรับหน้าเราให้ดูเป็นนายแบบนางแบบกันได้เลย ส่วนกล้องหลังให้มาไม่น้อยหน้ามี 3 ตัวด้วยกันคือ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายแบบมาโคร สามารถถ่ายได้ที่ระยะ 4 cm. และเซ็นเซอร์วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซลไว้ช่วยถ่ายโบเก้ หน้าชัด หลังเบลอ แล้วก็ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ช่วยในการถ่ายภาพ แถมยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกอีกมากมาย จัดเต็มทุกฟังก์ชั่นแบบราคาเบา ๆ

Xiaomi POCO M3 เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ขายดีมาก ๆ ถึงแม้จะออกวางจำหน่ายมาสักระยะแล้ว แต่ทว่าด้วยความคุ้มค่าของสเปคที่ให้มาแบบไม่กั๊กนั้น ก็ทำให้เราต้องหยิบมานำเสนอกัน ด้วยการออกแบบที่สวยทันสมัย ดีไซน์ฝาหลังได้โดดเด่นสะดุด มีหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ไซส์นิยมของทั้งเด็กและแก่ แถมสีสันก็สวยงาม มีความคมชัดระดับ Full HD+ โดยมีพื้นที่หน้าจอเทียบกับตัวเครื่องใหญ่ถึง 90.34% แล้วก็ยังผ่านมาตรฐานที่รับรองโดย TÜV Rheinland ช่วยถนอมดวงตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย มาพร้อมโหมด Sunlight ทำหน้าที่เพิ่มแสงพิเศษเมื่อใช้งานกลางแจ้ง แล้วก็ยังมี Reading Mode ที่จะช่วยเพิ่มความสบายตาในการอ่านควบคู่กับการถนอมสายตา อีกทั้งมีเซ็นเซอร์ปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง หรือจะปลดล็อคด้วยการแสกนใบหน้าก็รองรับด้วยเช่นกัน

ในส่วนของกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด AI Beautify ที่จะความเสริมสวย เติมความหล่อกันแบบสุด ๆ สามารถสั่งกดชัตเตอร์ด้วยการแสดงฝ่ามือ (Palm Shutter) มาดูกล้องหลังที่จัดเต็มจัดหนัก จัดให้เกินราคารุ่นอื่น ๆ แบบไม่มีจกตากับกล้องหลักที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แถมลูกสมุนอย่างเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องที่เป็นเซ็นเซอร์วัดระยะเวลาถ่ายโบเก้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ฮอตฮิตที่ก่อนหน้านี้ให้มาแต่ในรุ่นแพง ๆ อย่าง Night Mode เตรียมขากล้องหรือทำมือนิ่ง ๆ รับรองว่าการถ่ายภาพกลางคืนของคุณจะดีงามเทียบเท่าถือกล้องตัวโต ๆ เลย(ต้องมีฝีมือการถ่ายภาพช่วยด้วยนะ) มาพร้อม AI Scene Detection ที่จะช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติ รวมถึงยังสามารถบันทึกวิดีโอ Slow Motion ที่ 120 fps

ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลจาก Snapdragon 662 ที่เร็วกว่า พร้อมด้วย RAM ขนาด 4 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล Storage ขนาด 64 GB และ 128 GB แถมยังเพิ่ม MicroSD ได้มากถึง 512 GB อีกด้วย ซอฟต์แวร์ภายในเครื่องเป็น Android 10 ที่พัฒนาลูกเล่นและหน้าตาโดย Xiaomi หรือที่เรียกว่าครอบทับด้วย MIUI 12 เพิ่มเติมด้วยลำโพงสเตอริโอ เพิ่มอรรถรสในการดูหนัง เล่นเกมส์แบบจุก ๆ ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh สามารถเล่นได้ยาวนาน แล้วยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W สรุปได้ว่า Xiaomi Poco M3 สเปคดีมาก โหดจัดหลายด้านจริง ๆ ในราคาช่วงราคา 4000

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท Realme C12 มีคอนเซ็ปท์ในการดีไซน์ที่เรียกเท่ ๆ ว่า Geometric Gradient Design เป็นลายกราฟิกไล่ระดับสีด้านหลัง มีหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาดใหญ่โตถึง 6.5 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ HD+ ที่มีความสว่างสูงสุด 420 nits กล้องหน้าเป็นสไตล์ Mini Drop Fullscreen เสียดายที่รุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G35 octa-core ความเร็ว 2.3 GHz ที่ค่อนข้างช้าไปเมื่อเทียบกับรุ่นบน ๆ หน่วยประมวลผลมาพร้อมเทคโนโลยี HyperEngine ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ดีขึ้น มี RAM ขนาด 3 GB และพื้นที่ Storage สำหรับเก็บข้อมูลภายในเครื่อง 32 GB แล้วยังเพิ่มได้ด้วยการ์ด MicroSD สูงสุด 256 GB ซอฟท์แวร์เป็นระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ผ่านการปรับแต่งหน้าตาที่มีชื่อว่า Realme UI 1.0

ในส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องเซ็นเซอร์ขาวดำความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และมีกล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ระยะในการถ่ายใกล้สุด 4 เซนติเมตร แถมฟีเจอร์ Super Nightscape ไว้ถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อย และฟีเจอร์ Chroma Boost เพิ่มสีสันให้ดูสดใสยิ่งขึ้น มีแบตเตอรี่ 6,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานทีเดียว รวม ๆ แล้วสเปคนี้ค่อนข้างไม่น่าสนใจ ตั้งแต่หน่วยประมวลผลไปจนถึงกล้องหน้ากล้องหลัง ถ้าไม่ติดใจเรื่องศูนย์บริการที่ให้บริการดี ก็แนะนำเพิ่มเงินอีกนิดไปดูรุ่นอื่นก็ได้ครับ

Nokia 3.4 เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ดูเรียบง่าย พร้อมความพรีเมี่ยมหรูหรา สัมผัสแข็งแกร่ง ด้วยฝาหลังแบบนาโน 3 มิติ โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีสันสดใส จับได้กระชับถนัดมือ สเปคเครื่องตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี มีหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด HD+ จอใหญ่ คมชัด ตอบสนองทุกการใช้งาน เพิ่มความบันเทิงในการรับชมอย่างเต็มอรรถรส ขับเคลื่อนการทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 460 แบบ 8 แกน มีความเร็ว 1.8 GHz มาพร้อมกับ RAM ขนาด 3 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB ที่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 แบบไม่มีการปรับแต่งใด ๆ การันตีการอัพเดตซอฟแวร์ 2 ปีแน่นอน รวมถึงมียังการปรับปรุงระบบความปลอดภัยเรื่อย ๆ นานถึง 3 ปี ใครที่ชอบความเสถียรขั้นสุดของ Pure Android แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้เลยครับ

ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh แล้วก็ยังมี Adaptive Battery ช่วยให้ประหยัดแบตมากยิ่งขึ้น ด้วยการเรียนรู้การใช้แอปพลิเคชั่นของเรา แล้วควบคุมการใช้พลังงานของแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะสม ส่วนกล้องหน้าก็ให้มา 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลักด้านหลัง ความละเอียด 13 กล้องมุมกว้างพิเศษ 5 ล้าน เก็บภาพวิวได้กว้างกว่าที่เคย รวมถึงกล้องสำหรับวัดระยะ 2 ล้านพิกเซลเพื่อการถ่ายภาพโบเก้โดยเฉพาะ เพิ่มเติมแอปพลิเคชั่น Family Link ที่มาช่วยดูแลบุตรหลานของท่านในด้านต่าง ๆ ทั้งการเรียน การเล่น สามารถตั้งค่าเพื่อจำกัดสำหรับเนื้อหาที่มีความรุนแรงและเรื่องเพศได้ รวมถึงควบคุมระยะเวลาการใช้งานมือถือของเด็ก ๆ ได้อีกด้วยครับ

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท อย่าง Motorola Moto G9 Play ถือเป็นอีกรุ่นที่ทำการบ้านมาค่อนข้างดี ลงตัวทั้งสเปคและราคา มีหน้าจอ Max Vision ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ใหญ่โต เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม และทำงาน จอภาพมีอัตราส่วนอยู่ที่ 20:9 และความละเอียดระดับ HD+ เหมือนรุ่นอื่น ๆ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm รุ่น Snapdragon 662 แบบ 8 แกน ทำงานที่ความเร็ว 2.0 GHz ตัวเครื่องให้ RAM ขนาด 4 GB พร้อมความจุ Storage ภายในเครื่อง 128 GB ใช้ระบบปฏิบัติการ Android

มีแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน แต่ถ้าเล่นเกมส์น่าจะแค่ 1 วัน แถมยังรองรับชาร์จเร็วอย่าง TurboPower 15W ด้านข้างมีปุ่มไว้สำหรับเรียกใช้ Google Assistant ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องที่ทำหน้าที่วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แถมโหมด Night Vision ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนสวยงาม มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น รวม ๆ ก็ถือว่าสเปคถือว่าน่าใช้งานเลยครับ

มือถือ Xiaomi สำหรับคนงบน้อยแต่สเปคไม่น้อยตาม ถึงจะออกมาก่อนรุ่น Redmi Note 10 5G แต่ทว่าก็ยังน่าสนใจด้วยพลังของหน่วยประมวลผลจาก Dimensity 800U 5G (7nm) ที่ถือเป็นไฮไลต์ กราฟิกทำความเร็วได้มากกว่า Dimensity 700 พอสมควร ถ้าดูจากคะแนนทดสอบ Antutu ในตาราง ควรจะไปจัดอันดับอยู่กับพวกรุ่นกลาง ๆ ราคา 9000 บาทด้วยซ้ำ ทำให้มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi Note 9T 5G นี้คุ้มค่าคุ้มราคาแบบสุด ๆ เลยทีเดียว ตัวเครื่องให้ RAM 4 GB มาพร้อมกับหน่วยความจำ Storage ขนาด 64 GB แบบ UFS 2.1 หรือ 128 GB UFS2.2 ซึ่งข้อดีของ UFS คืออ่าน-เขียนได้เร็วกว่า ลดเวลาเปิดแอปได้ 2-3 เท่าเลยทีเดียว แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน มีจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว เหมาะสำหรับทุกวัยไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ใช้ก็ดีงาม จอเป็นแบบ IPS สีสันสดใสมาพร้อมอัตราการรีเฟรชถึง 90 Hz ช่วยภาพดูเนียน ๆ ลื่น ๆ ให้กันมาแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว

กล้องหลักด้านหลังมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และ Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าจะอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปได้ดีเกินราคา พร้อมโหมดกลางคืนที่คุณภาพดีเลยทีเดียว ตัวเครื่องยังสามารถปลดล็อคด้วยลายนิ้ว หรือจะแสกนใบหน้าก็ได้ ส่วนถาดซิมเป็นแบบ 3 Slot ใส่ซิม 1 และ 2 พร้อมกับ MicroSD การ์ดได้เลย ส่วนจุดอ่อนของมือถือ Xiaomi เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ก็คือกระจกที่ยังแข็งแรงสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้ บวกกับเรื่องศูนย์บริการที่ยังมีน้อย เมื่อเทียบแบรนด์ตัวท็อปอย่าง Samsung แต่ด้วยราคา 6,000 บาท สเปคดีมาก เล่นเกมส์ก็ได้ แถมยังรองรับ 5G ก็ทำให้รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว คำเตือน* เนื่องจากรุ่นออกมาสักระยะแล้วต้องรีบไปซื้อกันหน่อยนะ ก่อนสินค้าจะหมดครับ

ได้เห็นมือถือกันไปทั้ง 10 ตัวแล้ว แต่อาจจะจำสเปคของมือถือแต่ละตัวไม่ได้ หรืออยากเห็นมือถือทั้งหมดมาวางเปรียบเทียบสเปคกันเลยมากกว่า ถ้างั้นก็ไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ ทางผมได้นำมาเทียบให้เห็นกันแบบช็อตต่อช็อตแล้ว ชอบสเปคแบบไหน ก็จัดไปครับ

ผ่านไปแล้วกับ 10 รุ่นเด็ด มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่เรารวบรวมมาให้คุณพิจารณาเลือกใช้งานกัน โดยแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ขนาดหน้าจอ ความสามารถในการถ่ายภาพหรือเล่นเกม ความจุของแบตเตอรี่ ลองเทียบกันในรายละเอียดอีกครั้งว่ารุ่นไหนที่น่าจะลงตัวกับการใช้งานของคุณมากที่สุดครับ ส่วนใครที่ทำมือถือเสียบ่อย กลัวปัญหาเรื่องศูนย์บริการ ก็เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์ซ่อมใกล้บ้านดีกว่า เวลามีปัญหาติดขัดการใช้งาน จะได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ ก็หวังว่าจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ช่วยเลือกมือถือที่โดนใจและคุ้มค่ากันนะครับ

ส่วนใครที่อยากได้มือถือที่ดีกว่านี้อีกลงดูลิงก์ข้างใต้เลยได้ครับ

Write a Comment